จากในปัจจุบันที่ทุกวันนี้สบู่ผิวขาวได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ทำให้อาจมีการทำสินค้าปลอมมาขาย หรือ อาจมีบางยี่ห้อที่ผู้ขายผสมสารอันตราย
เพราะเป็นการลดต้นทุน และเห็นผลเร็ว ซึ่งสารอันตรายที่นิยมใส่กัน คือ สารปรอท
ทำให้ผู้บริโภคอาจเจอสารปรอทที่เป็นสารอันตรายมากกว่าแบบอื่น
ทางเราจึงได้สุ่มตัวอย่างสบู่จากตามท้องตลาดที่คนนิยมซื้อ
และสบู่ที่ดูไม่มีความปลอดภัย โดยทางเราได้ทำการตรวจสอบโดยใช้
ชุดตรวจสอบสารปรอทของ MercUry Test Kit ซึ่งผลการทดลองทั้งหมดไม่สามารถใช้ในทางกฎหมายได้
เพื่อป้องกันการถูกร้องเรียนของทางผู้ผลิต ทางเราขอเซ็นเซอร์ยี่ห้อของสบู่ไว้
อันตรายจากปรอท
ผิวบริเวณที่ทาอาจคัน
ระคายเคืองหรือเกิดการไหม้ แต่สารปรอทไม่ได้ทำอันตรายกับผิวบริเวณที่ทาเท่านั้น
ยังมีโอกาสที่จะซึมเข้าสู่กระแสเลือด จะทำลายระบบประสาทส่วนกลาง
ทั้งสมองและไขสันหลัง ทำให้เสียการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย และเสียการรับรู้
เช่น การมองเห็น การได้ยิน การทำลายอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายที่เกิดจากปรอท
เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถรักษาหรือทำให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้
มารดาที่ตั้งครรภ์ได้รับสารปรอท
ปรอทจะดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และไปสู่ทารก ทำให้เด็กมีสมองพิการและปัญญาอ่อน นอกจากนี้ถ้าทาครีมที่มีส่วนผสมของสารปรอทเป็นเวลานาน
ผิวจะบาง แดง แพ้ เกิดผื่นระคายเคือง เล็บที่สัมผัสกับครีมจะบางลง
ผลกระทบจากการใช้
อาจก่อให้เกิดอาการแพ้เกิดได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ระยะสั้น
โดยเริ่มจากหน้าเห่อคันจนถึงพุพองส่วน
ระยะยาว สำหรับกรณีใช้ติดต่อกันนานๆ จะเกิดการสะสมของสารปรอทอยู่ใต้ผิว
ทำให้ผิวคล้ำลง
จนหน้ากลายเป็นสีปรอทกล่าวคือมีสีดำอมเทาพอถึงระยะนี้สารปรอทก็หมดฤทธิ์ในการฟอกสีกลายเป็นทำให้ผิวดำกว่าเดิม
วิธีการตรวจสอบเบื้องต้น
เอาผลิตภัณฑ์ทาผิวแถวท้องแขน
แล้วเอาพลาสเตอร์ปิดแผลปิดทับไว้ แล้วก็เอาอีกอันแปะผิวใกล้ๆกัน ทิ้งไว้12ชั่วโมงแกะออก
ถ้าผิวที่ทาครีมมันขาวซีดกว่าตรงที่ไม่ได้ทาครีมก็แสดงว่ามีส่วนผสมของสารปรอทที่ให้แปะไว้
2 อันก็เพื่อเปรียบเทียบกัน ทั้งนี้การทดสอบด้วยวิธีนี้
ไม่สามารถสรุปผลได้ 100% ว่าครีมมีส่วนผสมของสารปรอทหรือไม่
หากต้องการผลแน่นอน 100% ควรใช้ชุดตรวจจากกรมวิทยาศาสตร์
วิธีการตรวจสอบสารปรอทโดยใช้ชุดตรวจสอบ
1. ถูสบู่กับน้ำให้ขึ้นฟอง
2. ตักเนื้อสบู่ขึ้นมาโดยใช้ช้อนตวง
3. หยดน้ำยาลงไป
4. ทิ้งไว้ 10 นาที
แล้วเทียบกับแถบสีมาตรฐาน
ผลการตรวจ
- ถ้าพบสีว่าสีเข้มขึ้น
ผลเป็น + แสดงว่ามีการปนเปื้อนของสารปรอท
- ถ้าพบว่าสีไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ผลเป็น -
แสดงว่าไม่มีการปนเปื้อนของสารปรอท
ทางเราได้จัดกลุ่มสบู่ที่ได้มาทั้งหมด 4กลุ่ม
คือ
1.กลุ่ม A คือ สบู่ยี่ห้อดังที่วางขายทั่วไป
2. กลุ่ม B คือ สบู่ที่มีรีวิวและแม่ค้าแนะนำว่าทำให้ผิวขาวเร็ว
3.กลุ่ม C คือ สบู่ที่โฆหษณาสามารถทำให้ผิวขาวได้อย่างรวดเร็ว
4.กลุ่ม D คือ
สบู่ที่ไม่มียี่ห้อ ที่คนขายแนะนำว่าทำให้ขาวอย่างรวดเร็ว
ผลการทดลองที่ได้
สรุปผลการทดลอง
ตัวอย่างสบู่ทีตรวจพบการปนเปื้อนของสารปรอท
เป็นสบู่ที่มีการโฆษณาว่าทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
หาซื้อได้จากตลาดและอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะสบู่ที่ไม่มี อย. และยี่ห้อ
ส่วนมากของสบู่ที่ตรวจพบสารปรอทมีราคาค่อนข้างแพง ส่วนสบู่ยี่ห้อดังที่วางขายทั่วไปตรวจไม่พบการปนเปื้อนของสารปรอท
สบู่ก้อนใสๆ จะมีสารมั้ยคะ
ตอบลบ